ผีตึกแถว


ผีตึกแถว
  
    เรื่องจริงจากการบอกเล่าของลูกคัาที่มาตัดแว่นที่ร้านแว่นตา ออปโตพลัส

  การพูดคุยจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผ่านการตรวจวัดสายตาให้ลูกค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

  ระหว่างลูกค้ารอรับแว่นตาซึ่งทางร้านจะมีบริการทำแบบด่วนรอรับได้เลย

  การสันทนาการจะเริ่มพูดคุยกับลูกค้าแบบเป็นกันเองถามโน่นนี่นั่นไปเรื่อย  จนถึงคำถามที่ว่า

  บ้านอยู่ไหนไกลแค่ไหนที่บ้านทำอาชีพอะไร  ก็ถามไปเรื่อยไม่ได้หวังคำตอบ  แต่เค้าตอบกลับ

  มาว่า " ซื้อตึกแถวขายโชห่วยอยู่หน้านิคมอุตสาหกรรมหนองแค"  เราก็ถามต่อ " ขายดีมั้ย"

  เขาตอบ"  ขายดีมากแต่จะกลับมาอยู่บ้านแล้ว"  เราก็งงจึงถามต่อว่า  "  ทำไมหรือมีปัญหาอะไร"

  เขาบอก" ผีดุ "  เหอๆเราเหวอขนลุกซู่เลย   เขาบอกผีจริงนะหลอกทุกวันแต่ทนอยู่มาได้เกือบปีแล้ว

  จนครั้งล่าสุดทนไม่ได้  ย้ายของออกบางส่วนแล้วจะกลับมาอยู่อ.บ้านนาบ้านเกิดพร้อมติดประกาศ

  ขายตึกแบบขาดทุนจากที่ซื้อมาด้วยเงินสดประมาณ  500000 บาท  มีท่านใดสนใจมั้ย

  ลดราคาขาดทุน มีของแถมด้วย

   เรื่องเล่าจากปากเจ้าของตึกผีสิงที่เจอมาด้วยตัวเองเต็มๆเป็นเวลาเกือบปี

      ครอบครัวที่ประกอบไปด้วยพ่อแม่และลูกหนึ่งคนซึ่งมีญาติขายส่งโชห่วยอยู่ที่หนองแคอยู่แล้ว

  ได้ชักชวนให้ไปซื้อตึกซึ่งเป็นตึกสร้างใหม่3ชั้นไว้ค้าขายโชห่วยแบบเดียวกันแต่อยู่คนละที่  

  เห็นว่าเข้าท่าดีจึงซื้อไว้ 1 ห้องด้วยเงินสดราคาประมาณ  500000 บาท  หล้งจากนั้นก็ได้เข้าไปตกแต่ง

  ห้องต่างๆด้วยเฟอร์นิเจอร์และสุขภัณฑ์อย่างดีหมดไปอีกเยอะอยู่   แล้วเริ่มขนสินค้าเข้าร้านจนพร้อม

  จำหน่ายพร้อมกับต้วเจ้าของก็ได้เข้าไปอยู่อาศัย  และย้ายลูกไปเรียนหนังสือที่นั่นด้วย

       วันแรกที่เดินเข้าไปในบ้านรู้สึกขนลุกเย็นวาบอากาศอึมครึมทั้งๆที่เป็นกลางวัน  เขาบอกว่าเป็นบ้าน

  ที่ไม่น่าอยู่เลยด้วยบรรยากาศที่สยองๆยังไงไม่รู้  คืนนั้นผ่านไป

  วันที่2  และ 3 ผ่านไป เข้าวันที่ 4  ตอนกลางคืนจะเเข้าห้องน้ำเหมือนมีคนเดินตาม แต่ก็ยังไม่เห็นอะไร

  คืนต่อๆมาจะได้ยินเสียงเหมือนคนเดินขึ้นลงบันได เสียงคนคุยกันแต่ฟังไม่รู้เรื่องฟังจากเสียงแล้ว

ประมาณว่ามีคนเยอะมากทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เป็นอย่างนี้ทุกคืนเขาก็กลัวนะแต่ต้องอยู่

เพราะบ้านซื้อมาด้วยเงินสดเป็นของเขาแล้วจะย้ายไปไหน

           
         อยู่มาคืนหน่ึ่งได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องในบ้านดังมาก  เขากลัวมากคลุมโปงยันเช้า   เช้ามาเขาไป

  ถามคนข้างๆห้องว่าได้ยินเสียงอะไรมั้ย  เขาตอบว่าได้ยินเสียงกรีดร้องดังและโหยหวลมาก  เขาก็กลัว

  หลังจากวันนั้นด้วยความกลัวย้ายไปไหนก็ไม่ได้ จึงให้แม่ภรรยาไปนอนเป็นเพื่อน

  แม่ภรรยาเป็นคล้ายๆคนทรง เรื่องผีไม่ค่อยจะกลัวเท่าไหร่จึงไปนอนเป็นเพื่อน  นอนได้ 2 -3 วันก็เจอ

  เลยแต่เสียงเดินขึ้น ลงบันไดและเสียงคุยกันยังมีอยู่ตลอดทุกคืน   คืนนั้นแม่ภรรยานอนอยู่ในห้องกับ

  ลูกและหลานดึกแล้วแต่ยังไม่หลับ  แม่นอนติดข้างฝาไม่ชิดนัก มีตู้ตั้งอยู่ชิดข้างฝา1 ใบอยู่ระดับปลาย

  เท้า  เพราะฉะนั้นตั้งแต่หัวเข่าถึงศรีษะจึงเป็นฝาโล่งๆ     เขาบอกนอนไม่ได้ปิดไฟในขณะที่ทุกคนหลับ

  สายตาก็เหลือบเห็นบางอย่างดำๆไม่ชัดเท่าไหร่ที่ข้างฝาข้างตู้ก็ได้หันมาเพ่งมองเต็มๆตา

  สิ่งนั้นก็ค่อยๆชัดขึ้นมันยื่นออกมาจากกำแพงฝามันคือแขนที่ยื่นออกมายาวขึ้นเรื่อยๆมาทางที่แม่

  นอนแต่แม่ไม่กลัวจนเกือบจะถึงตัวแม่ แม่ก็นอนมองดูมันเฉยๆไม่ได้ปลุกใครเดี๋ยวจะกลัวกัน

  จนมันค่อยๆหดกลับเข้ากำแพงฝาไปอย่างเดิม  ตื่นเช้ามาเล่าให้ลูกฟังกลัวกันใหญ่

         อยู่มาเรื่อยๆแม่ยังอยู่เป็นเพื่อน  นอกจากกลางคืนที่ได้ยินเสียงแล้วกลางวันก็เริ่มมีบ้างแล้ว

  เริ่มจากเห็นอะไรแว็บๆตรงห้องน้ำบ้าง  ตรงมุมบันไดบ้าง แว็บขึ้น  ลงบันไดบ้าง ทำให้กลัวมาก

  ขึ้นไปอีก  ถึงขนาดกลางคืนไม่นอนแล้วไปนอนบ้านพี่สาวอีกที่หนึ่ง มาขายของเฉพาะกลางวัน

  โดยให้น้องสาวภรรยามาขายของเป็นเพื่อนเพิ่มอีกคน แต่ก็ยังโดนอีกคนกลางวันแสกๆ

      เหตุการณ์เกิดตอนกลางวันลูกค้าหมดแล้ว  ลูกค้าจะเยอะตอนเช้าๆเย็นๆ  ก็เลยนอนเล่นแต่แล้ว

  ทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงน้องสาวกรีดร้องเต็มที่แล้วก็เงียบไปเมื่อไปดูก็เห็นน้องสาวหลับ

  หมดสติจึงรีบพาไปหาหมอแต่ก็ไม่ดีขึ้นจึงตกลงพาไปรดน้ำมนต์ที่วัดแล้วน้องสาวก็ฟื้นเป็นปกติ

  เธอบอกไม่รู้อะไรเลยไม่ได้ร้องด้วย  เมื่อรดน้ำมนต์เสร็จพระท่านถามว่าเป็นอะไร  ทำอะไรผิดมา

  หริอเปล่าเห็นผู้หญิงผมยาวๆเดฺินตามน้องสาวมาอยู่  หลังกลับจากว้ดก็ไม่ไปที่ร้านอีก   เลยตัดสินใจ

  มาปลูกร้านค้าที่บ้านเกิดคือ อ .บ้านนา  ส่วนตึกห้องนั้นก็ประกาศขายขาดทุน ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

  เดี๋ยวกิติศัพท์แพร่กระจายคนรู้มากขึ้นจะขายไม่ได้

        เหตุการณ์ไม่ได้เกิดเฉพาะห้องนี้เท่านั้นแต่ห้องอื่นๆในแถวเดียวกันโดนหมดทั้งตึก

  ห้องถัดไปเขามาเล่าให้ฟังว่ากลางคืนก็ได้ยินเสียงเดินเสียงคนคุยกันทุกคืนเหมือนกัน  แว็บไปแว็บมาก็

  เหมือนกัน   แต่ทีเด็ดมันอยู่ที่วันหนี่งตอนกลางวัน แมวพันธ์ุเปอร์เซียของบ้านนี้มันเดินขึ้นไปชั้น3  พัก

  เดียวได้ยินเสียงแมวร้องแง้วๆเหมือนสู้กับอะไรที่ไล่ตีมันอยู่แล้วมันก็วิ่งลงมาหาเจ้าของที่ชั้นล่างอย่าง

  รวดเร็วท่าทางมันกล้วมาก   บ้านนี้เขาย้ายออกไปก่อนแล้ว  ติดประกาศขายหรือเช่าแล้ว

         ตึกนี้ทั้งตึกทุกห้องย้ายออกหมดแล้วเหลือห้องคนเล่าอยู่ห้องเดียวที่รอขนของกลับบ้านเมื่อร้านค้า

  สรา้งเสร็จ  แต่ก็มีอยู่ห้องหนึ่งมีคนมาเช่าขายหมูอยู่ได้ 3 วันเผ่นกลางคืนเลย  เพราะคืนนั้นจะเดินเข้า

  ห้องน้ำมีร่างผู้ชายดำๆเดินตามเข้าห้องน้ำด้วยเท่านั้นแหละไม่เคยเจอแบบนี้ ลากเมียเผ่นกลางดึกเลย

  เจอกันอีกทีเขาเล่าใหัฟัง  และเล่าให้คนอื่นๆฟังด้วย เรื่องจะกระจายเร็วขึ้นเลยต้องรีบขายขาดทุน

      อ่านแล้วสงสัยไหมว่าทำไมไม่เป็นห้องเดียวหรือห้องใดห้องหนึ่งแต่เป็นทุกห้อง   เหตุผลจาก

  ที่ได้ไปสอบถามรวบรวมมาจากหลายๆคนที่อยู่เก่าแก่ดั้งเดิม  เขาบอกว่าเป็นที่ป่าช้าเก่าซื้อมา

  สร้างตึกขาย  และขายหมดในเวลาอันรวดเร็วราคาก็แสนถูก ตึก 3 ชั้นแค่ 5 แสนใครก็อยากซื้อ

  บอกพิกัดไปอยู่แถวๆหน้าอุตสาหกรรมหนองแค  ใครๆก็รู้จัก  ตอนเย็นๆขายของดีมากกกกกก   ลองมั้ย!

            เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล    โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน!!!!!!!!!


              ขอบคุณคุณลูกค้าที่เล่าสู่ฟัง

          พบกันใหม่ในบทความต่อไป

       สนับสนุนโดย

     www.lovelyglases.com/love


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม